งาน
“บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39” ประสบความสำเร็จ ผู้เข้าชม 1.62 ล้านคน ค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์กวาดยอดจองไปได้
42,499 คัน เผยเป็นงานแสดงยานยนต์ที่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดรถปี
2018 เติบโตได้ตามเป้า 9.2 แสนคัน
นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์
กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์
อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะรองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล
มอเตอร์โชว์ เปิดเผยว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 นับเป็นอีกครั้งของการจัดงานที่ประสบความสำเร็จในทุกด้าน
ทั้งจำนวนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์
และผู้ประกอบการธุรกิจยานยนต์ที่เข้าร่วมงาน ซึ่งทุกค่ายต่างนำผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่
ๆ มาร่วมจัดแสดงอย่างคับคั่ง จำนวนผู้เข้าชมงานจากการเก็บรวบรวมสถิติพบว่า
มีตัวเลขอยู่ที่ 1.62 ล้านคน”
นายจาตุรนต์ กล่าวเพิ่มเติม
“ด้านของยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เกิดขึ้นภายในงาน มียอดรวมทั้งสิ้น 42,499 คัน แบ่งออกเป็นรถยนต์ 36,587 คัน เติบโตขึ้น 18
เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมา ขณะที่รถจักรยานยนต์มียอดจองในปีนี้ 5,912 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า
ในปีนี้ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก
โดยทางค่ายฟอมม์แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นซึ่งทำการเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกภายในงานสามารถสร้างยอดจองได้ถึง
354 คัน
จากการรวบรวมตัวเลขยอดจองภายในงาน
โตโยต้า มียอดจองมากที่สุดอยู่ที่ 5,689 คัน, อันดับที่ 2 ฮอนด้า 5,133 คัน อันดับที่ 3 มาสด้า 5,021 คัน
อันดับ 4 อีซูซุ 3,920 คัน และอันดับ 5 เมอร์เซเดส-เบนซ์ 2,297 คัน ขณะที่ตลาดรถหรูยังคงเป็นเซ็กเมนต์ที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงาน
ส่วนในกลุ่มรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า มียอดจองมากที่สุด 2,628 คัน,
อันดับ 2 ยามาฮ่า 737 คัน และอันดับ 3
คาวาซากิ 554 คัน
จากยอดจองภายในงานครั้งนี้พบว่า
ผลจากการเริ่มทยอยปลดล็อกรถยนต์คันแรก
รวมถึงภาคการเกษตรมีแนวโน้มปรับตัวไปในทางที่ดี
ทำให้สถานการณ์ของตลาดเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ส่งผลให้กลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลางและขนาดเล็ก
รวมถึงรถเพื่อการพาณิชย์ ยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค
แม้จะมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในการใช้ของรถเพื่อการพาณิชย์ก็ตาม
แต่รถยนต์ในกลุ่มนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างมาก
โดยมีสัดส่วนยอดจองอยู่ที่ 20-30 เปอร์เซ็นต์
ของยอดจองในปีนี้
ทางด้านรถในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลาง
และรถยนต์หรูสัญชาติตะวันตกได้รับความนิยมจากผู้เข้าชมงานเป็นอย่างมากเช่นกัน
เนื่องจากรถยนต์ในกลุ่มนี้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาจากหลายบริษัท
โดยเฉพาะรถประเภทเอสยูวีที่เริ่มมีทิศทางการเติบโตตามความต้องการของตลาดมากขึ้น
ขณะที่รถไฟฟ้าที่เข้ามาแสดงภายในงานในปีนี้
ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก จึงทำให้รถประเภทนี้เป็นทางเลือกของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
ซึ่งหากดูจากการสนับสนุนจากภาครัฐที่เกี่ยวเนื่องกับรถไฟฟ้าก็น่าจะทำให้ตลาดรถในกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม
นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
เป็นงานจัดแสดงรถยนต์งานหนึ่งของประเทศที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มีการเติบโต
เพราะนอกจากจะเป็นการเข้ามากระตุ้นตลาดในช่วงโลว์ซีซั่นแล้ว ตัวเลขการขายยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ไม่ได้จบอยู่เพียงภายในงานเท่านั้น นั่นเพราะรายชื่อผู้เข้าเยี่ยมชมในแต่ละบูธที่บรรดาที่ปรึกษาการขายรวบรวมมาได้
ยังใช้เป็นฐานข้อมูลเพื่อไปต่อยอดในการขายในอนาคตได้อีกด้วย
นายจาตุรนต์ กล่าวเสริม “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมางานบางกอก
อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
ยังคงได้รับความเชื่อมั่นเป็นอย่างดีจากบริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์
และผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจยานยนต์
ในการเข้าร่วมงานเพื่อจัดแสดงเทคโนโลยียานยนต์ไปจนถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ
พร้อมทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในการสร้างบูธและจัดแสดงโชว์สุดอลังการมาโดยตลอด”
ทางผู้จัดงานต้องขอขอบคุณทุกๆ
บริษัทที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ที่มีส่วนช่วยเหลือและสนับสนุนให้งาน “บางกอก
อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ในปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
นั่นเป็นการยืนยันให้เห็นได้ถึงการเป็นงานแสดงรถยนต์อันดับหนึ่งของเมืองไทยและเป็นหนึ่งในอาเซียน
เทียบชั้นกับงานแสดงรถยนต์ระดับโลกได้อย่างแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น